10 พิกัดชมดอกไม้ ดูสายหมอกสุดว้าว! แดนอีสาน

หนาวนี้ชวนเที่ยวอีสาน ไปสัมผัสความสวยงามของดอกไม้เบ่งบาน และพรรณไม้สีสันสวยงาม สายหมอกสีขาวสุดฟิน กับ 10 พิกัดที่เดินทางไปไม่ยาก เหมาะมากๆ สำหรับคนชอบธรรมชาติและชอบถ่ายรูป 

ภูห้วยอีสัน เป็นจุดชมวิวลำน้ำโขงบนเนินเขาเล็กๆ ที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้อย่างสวยงามอีกแห่งหนึ่งของจ.หนองคาย เมื่อนั่งรถอีแต๋นที่จัดไว้บริการนักท่องเที่ยวขึ้นมาถึงจุดชมวิวสูงสุด จะมองเห็นทั้งบ้านเรือนในอ.สังคม จ.หนองคาย ลำน้ำโขง และเกาะแก่ง ที่คั่นระหว่างชายแดนไทย-ลาว พร้อมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง ความงดงามอยู่ที่เวลาพระอาทิตย์เริ่มสาดกระทบสายหมอกและลำน้ำโขง บรรยากาศทุ่งหญ้ารอบตัวจะทาไปด้วยสีส้มอุ่นๆ ราวกับอยู่ในความฝัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม

ที่ตั้ง : อ.สังคม จ.หนองคาย

เวลาเปิด-ปิด : 05:30–08:00 น. ทุกวัน

โทร. : 042 414 871, 087 219 5500

อุทยานแห่งชาติภูเรือ ใครอยากสัมผัสอากาศ “หนาวสุดแดนสยาม” จนถึงขั้นเห็นแม่คะนิ้ง ต้องมาที่นี่ จุดชมวิวที่รู้จักกันดีคือ ผาโหล่นน้อย ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม และหากเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 700 เมตร จะพบกับ ยอดภูเรือ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,365 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทั้งแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นระหว่างพรมแดนไทย-ลาว นอกจากจะได้ชมแสงสาดกระทบยอดเขาอย่างงดงามแล้ว บนนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพต มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติชมดอกไม้ป่าช่วงหน้าหนาว และบริการลานกางเต๊นท์อีกด้วย

ที่ตั้ง : ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย

เวลาเปิด-ปิด : 05:30–20:00 น. ทุกวัน

โทร. : 042 810 965, 088 509 5299

ภูทอก จุดชมวิวที่สามารถมาได้ทั้งวัน ทั้งมาชมทะเลหมอกยามเช้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่หากใครมีโอกาสมาเยือน อ.เชียงคาน จ.เลย ก็ไม่ควรพลาดที่จะขึ้นมารอแสงแรกส่องลงบนผืนหมอกหนานุ่ม ในขณะที่ยามเย็น วิวพระอาทิตย์ตกจากบนนี้ก็สวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งนอกจากความงดงามตามธรรมชาติแล้ว ยังจะได้เห็นทั้งทิวทัศน์มุมสูงของตัวเมืองเชียงคาน ฝั่งตรงข้ามคือเมืองสานะคาม สปป.ลาว มีลำน้ำโขงคั่นกลาง เรื่อยไปจนถึงแก่งคุดคู้ ที่ตรงสุดโค้งน้ำด้วย

ที่ตั้ง : ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย

เวลาเปิด-ปิด : 05:30-18:00 น. ทุกวัน

ทะเลบัวแดง บ้านเดียม จะหาบรรยากาศที่ไหนโรแมนติกเท่าล่องเรือชมทะเลบัวแดงภายใต้แสงอาทิตย์สีทองรำไรยามเช้าคงมีไม่มากนัก หากใครได้มาเยือนทะเลบัวแดง บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี อุดรธานี สักครั้งแล้วรับรองว่าจะต้องหลงรัก เทศกาลชมทะเลบัวแดงมีขึ้นตลอดฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ โดยจุดล่องเรือชมบัวแดงกระจายอยู่หลายแห่งรอบบึง แต่ท่าเรือซึ่งมีขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมที่สุดอยู่ที่บ้านเดียม ตำบลเชียงแหว แต่ละวันจะมีชาวบ้านมาให้บริการเรือนำเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการ

ที่ตั้ง : บึงหนองหาน บ้านเดียม ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี

ติดต่อเทศบาลตำบลเชียงแหว : 042143051

ติดต่อโฮมสเตย์บ้านเดียม : 0862222486

ภูลมโล ใครที่ชมวิวดอกนางพญาเสือโคร่งทางเหนือจนเบื่อแล้ว ขอให้มาเปลี่ยนบรรยากาศชมซากุระเมืองไทยทางฝั่งอีสานดูบ้าง โดยเฉพาะที่ภูลมโล ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ฝั่งจ.เลย ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินเขาติดกันหลายลูก และมีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นตามธรรมชาติอยู่ทั่วไป เมื่อถึงช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี เนินเขาจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอย่างอลังการจากดอกไม้ที่เบ่งบานพร้อมกัน เรียกว่ามองจากมุมสูงก็จะได้วิวขุนเขาแซมด้วยสีชมพูเต็มไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแสงยามเช้าตรู่ หรือจะลงไปเดินหามุมเซลฟี่ใต้ต้นซากุระเอง ก็มีมากมายจนไม่ต้องแย่งวิวกับใครแน่นอน

ที่ตั้ง : ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์

โทร. : 062 557 0912-3

จุดชมวิววัดผาตากเสื้อ เป็นจุดชมวิวสกายวอล์กทรงเกือกม้ายาว 16 เมตร ที่สามารถเดินออกไปชมวิวพาโนรามาน่าตื่นตาของแม่น้ำโขงกว้างใหญ่ไกลถึงฝั่งสปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้าน แถมในช่วงน้ำลดยังสามารถมองเห็นสันทรายเป็นคลื่นคล้ายเกล็ดพญานาคจากระยะไกลด้วย ส่วนใครที่อยากมาสัมผัสทะเลหมอกจะต้องมาเช้าหน่อย โดยเฉพาะช่วงหลังคืนฝนตกและฤดูหนาวที่หมอกจะลอยตัวคลุมเหนือพื้นด้านล่างจนมิด กลายเป็นวิวสุดอลังการราวกับยืนอยู่เหนือปุยเมฆก็ไม่ปาน ชมวิวแล้วก็อย่าลืมเดินขึ้นบันไดนาคไปสักการะพระประธานบนพระอุโบสถของวัด พร้อมกับทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่ตั้ง : ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย

เวลาเปิด-ปิด : 09:30–16:30 น. ทุกวัน

ผามออีแดง  เป็นจุดชมวิวที่อยู่ติดชิดชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา และยังอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารฝั่งไทยด้วย เรียกว่าเป็นบริเวณที่เคยรุ่งเรืองด้วยอารยธรรมขอม จากบรรดาสถูปและปราสาทหลายแห่งที่กระจายอยู่ในบริเวณนี้ รวมไปถึงปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิวผามออีแดงนี้เช่นกัน นอกจากนี้ใต้หน้าผายังมีทางเดินให้ลงไปชมภาพสลักนูนต่ำอายุกว่า 1,000 ปีด้วย ส่วนใครที่อยากมาสัมผัสทะเลหมอกต้องรีบมาแต่เช้า โดยเฉพาะวันที่คืนก่อนมีฝนตกก็จะมีโอกาสได้เห็นหมอกลอยล่องเหนือผืนป่าเขียวขจี และโอบล้อมเทือกเขาฝั่งกัมพูชาอย่างชัดเจน

ที่ตั้ง : ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

เวลาเปิด-ปิด : 05:30–18:00 น. ทุกวัน

โทร. : 045 826 045

จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ทุกหนึ่งปี เป็นเวลาหนึ่งเดือนช่วงปลายปีเก่าต้นปีใหม่ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จะเนรมิตพื้นที่ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีทั้งทุ่งดอกไม้นานาพรรณ จัดแสดงงานสถาปัตยกรรม แสดงศิลปะพื้นบ้าน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวอีสาน ซึ่งแต่ละปีธีมงานจะเปลี่ยนไปเรื่อย

แน่นอนว่าช่วงหนึ่งเดือนดังกล่าวนอกจากจะมาเที่ยวถ่ายรูป ชมการแสดง ศึกษาวัฒนธรรมพื้นบ้าน ยังเป็นโอกาสดีของนักท่องเที่ยวในการสรรหาผลิตผลคุณภาพจาก จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม โดยเฉพาะพืชผักต่างๆ และ ผ้าไหมไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกแบบถึงที่ปีนี้ จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2561 ถึง 6 มกราคม 2562 ภายใต้คอนเซ็ปต์งาน “แซ่บนัว หัวม่วน อีสาน โอชา” ใครอยากเที่ยวชมสวนดอกไม้สวยๆ สัมผัสวัฒนธรรมไทยอีสาน วางแผนกันได้เลย

ที่ตั้ง : ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ใกล้โรงเรียนลำพระเพลิงพิทยาคม

เวลาทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8 ธ.ค. 61 – ม.ค. 62 เวลา 9.00-17.00 น.

ค่าเข้าชม : วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 130 บาท วันเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 220 บาท เด็ก 160 บาท มีส่วนลดในการซื้อบัตรล่วงหน้า

ติดต่อ : 027002566, 0856607336

ภูป่าเปาะ  เป็นจุดชมวิวที่สามารถมาได้ทั้งวัน โดยไฮไลท์อยู่ที่วิว “ภูหอ” หรือเรียกเก๋ๆ ว่า “ฟูจิเมืองเลย” ซึ่งถือเป็นวิวที่ใครต่างก็ตั้งใจนั่งรถอีแต๊กชาวบ้านขึ้นมาชมกัน ลักษณะเป็นภูเขายอดตัดราบ มองไกลๆ คล้ายชามคว่ำดูแปลกตา จนมีคนเชื่อมโยงว่าเหมือนภูเขาไฟฟูจิที่ญี่ปุ่นเพียงแต่ไม่มีหิมะปกคลุมเท่านั้นเอง บนยอดภูป่าเปาะมีจุดชมวิวเตรียมไว้ให้ถึง 4 จุด โดยจุดชมวิวที่อยู่สูงสุดจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบตัว 360 องศา เรียกว่าจะมารอพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมสายหมอก หรือจะมาชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกก็ได้ ทิวทัศน์ที่เห็นก็สวยงามแตกต่างไปในแต่ละฤดูกาล สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี 

ที่ตั้ง : ต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย

เวลาเปิด-ปิด : 05:00–18:00 น. ทุกวัน

โทร. : 042 894 254, 089 764 6829 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สำหรับนักเดินทางขาลุย ยอดภูกระดึง คงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเช็คอินซักครั้งในชีวิต เพราะความท้าทายของระยะเดินเท้าขึ้นเขากว่า 9 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงในการไต่ระดับขึ้นไปจนถึงยอดภู แต่ความสวยงามของป่าสนและธารน้ำตกบนนั้นก็ตอบแทนหยาดเหงื่อของนักเดินทางอย่างคุ้มค่า โดยจุดชมวิวที่กลายเป็นภาพจำของภูกระดึงนั่นคือ ผาหล่มสัก ที่มีชะง่อนหินยื่นออกไปกับกิ่งสน มุมถ่ายภาพสุดฮิตที่ใครก็ต้องมาต่อคิวรอเวลาพระอาทิตย์ลับฟ้า นอกจากนี้ก็ยังมีผานกแอ่น ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งแทบทุกคนที่ขึ้นมาบนภูกระดึงจะต้องตื่นมารับอรุณด้วยกัน

ที่ตั้ง : ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เดินขึ้นลงภู 07:00–14:00 น. ทุกวัน ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม

โทร. : 042 810 833, 042 810 834