3 วัน 2 คืน กับ 15 พิกัดสุดชิลล์ “อุบลราชธานี-ยโสธร-อำนาจเจริญ”

หนาวนี้แอดมินชวนบินเดี่ยวเที่ยวอีสาน ดินแดนแห่งวัฒนธรรมและธรรมชาติ พาไปสัมผัส 3 เมืองน่ารัก อุบลราชธานี-ยโสธร-อำนาจเจริญ ที่ใครๆ เคยคิดว่าไกล ไปยาก ไปแล้วจะเที่ยวอะไรดี แต่พอเดินทางมาจริงๆ ก็คิดว่าไม่ยากเลย เพราะมีทั้งสายการบิน รถประจำทาง รถเช่าให้เลือกเพียบ แต่ถ้าง่ายหน่อยก็บินตรง 1 ชั่วโมงนิดๆ มาลงที่อุบลราชธานี แล้วเช่ารถขับเที่ยวสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้นสำหรับคนทำงาน

สำหรับ 3 เมืองนี้จะไปเที่ยวที่ไหน บอกเลยว่า มาเถอะ ที่เที่ยว ที่กินเพียบ แล้วยังมีพิกัดเช็คอินใหม่ๆ อีกด้วย ทริปนี้เราเที่ยวกันหลายสไตล์สุดๆ ไม่ว่าจะสายธรรมชาติ หรือสายบุญก็มีหมด ถ้าโดนใจที่ไหนก็เช็คลิสต์ที่โปรดไว้ แล้วตามแอดไปเช็คอินด้วยกันนะ

ผาแต้ม น้อยคนที่จะไม่เคยได้ยินชื่อผาแต้ม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุบลราชธานี เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ด้วยการตั้งอยู่เกือบทางปลายสุดของทิศตะวันออก จึงเป็นสถานที่แรกๆ ที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น จนเกิดเป็นกิจกรรมชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยามช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

การเที่ยวชมผาแต้มแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกคือการชมวิวแม่น้ำโขง ชมพระอาทิตย์ขึ้น จากแนวหน้าผาความกว้างยาวต่อเนื่องหลายร้อยเมตร อีกส่วนคือการเดินชมภาพเขียนสีโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่อยู่ด้านล่างของหน้าผา ในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีไกด์เยาวชนคอยนำเที่ยวให้ความรู้ด้วย ภายในอุทยานฯ มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ให้บริการสำหรับผู้ต้องการพักแรม มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร สามารถเที่ยวชมและค้างแรมได้ตลอดทั้งปี

ที่ตั้ง : ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

เวลาทำการ : 5.00-18.00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ค่าธรรมเนียมรถยนต์ 30 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท

ติดต่อ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม 045252581

สามพันโบก  หนึ่งในมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ แก่งหินกว้างหลายตารางกิโลเมตรซึ่งโดนกระแสน้ำกัดกร่อนจนกลายเป็นแอ่ง หลุม (ภาษาอีสานเรียกว่าโบก) ให้สวยงามแปลกตา จะอวดโฉมให้เห็นยามแม่น้ำโขงลดระดับต่ำในช่วงหน้าแล้ง หลังจากจมอยู่ใต้ลำน้ำขุ่นแดงตลอดช่วงหลายเดือนของฤดูฝนพื้นที่ของสามพันโบกกว้างหลายตารางกิโลเมตร

นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะปีนป่ายไปตามโขดหินรูปร่างประหลาดต่างๆ ไฮไลท์อยู่บริเวณที่เรียกว่าหินหัวสุนัข เพราะมีลักษณะเป็นผาหินสูงชัน จนได้รับสมญาว่าแกรนด์แคนยอนเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนั่งเรือชมความงามสองข้างทางตลอดแนวแม่น้ำโขง ชมประติมากรรมธรรมชาติหลากหลาย หรือเที่ยวหาดทรายที่โผล่พ้นน้ำเช่น หาดหงส์ หาดสลึง เป็นต้น มาที่นี่ที่เดียวจะได้สัมผัสความแปลกตาของธรรมชาติมากมายเชียว

ที่ตั้ง : ริมแม่น้ำโขง ต.เหล่างาม และ ต.สองคอน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี

เวลาทำการ : ไม่มีกำหนดเปิด-ปิด แก่งหินจะโผล่พ้นน้ำประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม ช่วงที่ดีที่สุดคือตั้งแต่มกราคมเป็นต้นไป

ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม มีค่าเรือและรถนำเที่ยว

ติดต่อ อบต.เหล่างาม 045407138, อบต.สองคอน 045338057, 045338015

วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มาต่อกันกับวัดสวยในอำเภอโขงเจียม ขับรถย้อนกลับมาในตัวอำเภอโขงเจียมเพียงไม่กี่นาที ก็จะเจอกับวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี โดยนักท่องเที่ยวมากราบไหว้สังขารหลวงปู่คำคนิง จุลมณี ที่ไม่เน่าเปื่อย นอกจากนี้เรายังได้ชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงและแม่น้ำสองสี รวมถึงวิวเมืองโขงเจียมและวิวของฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจน ที่นี่ยังมีเจดีย์วัดถ้ำคูหาสวรรค์ หรือ พระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ ที่สวยงามโดยมีลักษณะเจดีย์ยอดแหลมที่เป็นสีทอง ตัวเจดีย์สีขาว นอกจากนี้ยังมีฆ้องยักษ์ AEC ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย 

ที่ตั้ง : อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 8:00 – 17:00

ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม

วัดพระธาตุหนองบัว อ.เมือง  วัดพระธาตุหนองบัว หรือ วัดหนองบัว เป็นหนึ่งในวัดดังของเมืองอุบลฯ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเดินมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะที่นี่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมของ พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่เดิมมีรูปแบบจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยาในอินเดีย

ต่อมาได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบพระธาตุองค์เดิมไว้ โดยพระธาตุองค์ใหม่นั้นมีสีขาว ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายสีทองอย่างวิจิตร ส่วนพื้นผิวขององค์เจดีย์ก็ออกแบบด้วยภาพนูนต่ำบอกเล่าเรื่องเราเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ความเชื่อความศรัทธาเกี่ยวกับพญานาค ครุฑและยักษ์ นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น แถมตัวพระอุโบสถ์และศาลาการเปรียญของวัดก็ยังมีรูปแบบการตกแต่งที่สวยงามไม่แพ้ลวดลายของเจดีย์เลยอีกด้วย

ที่ตั้ง : ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 

สะพานข้ามทุ่ง “ขัวน้อย” บ้านชีทวน อ.เขื่องใน แวะไปเที่ยวสัมผัสความเป็นทุ่งนาสีเขียวขจีกันบ้างกับ สะพานข้ามทุ่ง “ขัวน้อย” หมู่บ้านชีทวน ซึ่งคำว่า ขัวน้อย ในภาษาอีสานนั้นหมายถึง สะพานขนาดเล็กซึ่งแต่เดิมที่นี่เป็นเพียงเนินดิน ที่ใช้เดินทางสัญจรไปมาเท่านั้น และก็เริ่มมีการสร้างสะพานไม้เล็ก ๆ ขึ้น จนกระทั่งพัฒนามาเป็นสะพานคอนกรีตจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนในปัจจุบัน นอกจากการเดินทางที่สะดวกขึ้นแล้ว ที่นี่ยังถือเป็นจุดที่รวมวิถีชีวิต ความสวยงามตามธรรมชาติและยังเป็นสถานที่เล่นสนุกของเด็ก ๆ และเป็นสถานที่ออกกำลังกายของคนในชุมชน ที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดอีกด้วย 

ที่ตั้ง : บ้านชีทวน ม.1 ต.ชีทวน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี 

ร้านกกขาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มาเริ่มต้นเปิดความแซ่บกันที่ร้านอาหารเด็ด ๆ ในอุบลฯ ร้านกกขาม ร้านอาหารอีสานรสแซ่บชื่อดังแห่งเมืองอุบลฯ ที่เน้นการตกแต่งร้านในสไตล์บ้าน ๆ แต่รสชาติและคุณภาพอาหารจัดเต็มเลยก็ว่าได้

ภายในร้านก็แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนที่รองรับงานจัดเลี้ยงและอีกโซนสำหรับลูกค้าทั่วไป รับเมนูอาหารของร้านก็บอกแล้วว่าเน้นเสิร์ฟเมนูอีสานแบแซ่บ ๆ ได้แก่ ปิ้งปลาทาเกลือ, หลามปลา, ต้มไก่บ้านใบมะขามอ่อน, ลาบปลา และกุ้งเต้น รวมไปถึงเมนูอื่น ๆ อกสารพัดอย่าง ใครที่มาอุบลฯ แล้วไม่แวะมาชิมร้านนี้ต้องขอบอกเลยว่าพลาด

ที่ตั้ง : 1 หมู่ 4 ถนนเลี่ยงเมือง ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

เวลาเปิดปิด : เวลา 07.00-21.00 น.

โทรศัพท์ : 0081 879 2325, 089 861 9532

พระธาตุอานนท์ วัดมหาธาตุ จ.ยโสธร  ถึงเวลามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของ ยโสธร นั่นก็คือ พระธาตุยโสธร หรือ พระธาตุอานนท์ ตั้งอยู่หน้าอุโบสถภายใน วัดมหาธาตุ วัดคู่บ้านคู่เมืองยโสธรมาตั้งแต่แรกเริ่มสร้างเมือง ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมือง เป็นพระธาตุรุ่นเก่าที่สำคัญองค์หนึ่งในภาคอีสาน ก่อสร้างด้วยศิลปะที่ได้รับอิทธิพลศิลปะลาวที่นิยมสร้างขึ้นเมื่อปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมส่วนยอดคล้ายพระธาตุพนม

ภายในพระธาตุบรรจุอัฐิธาตุของพระอานนท์ ลักษณะพระธาตุ ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยาวด้านละ 81 ม. ก่ออิฐถือปูนเอวฐานคอดเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงาย เหนือขึ้นไปเป็นเรือนธาตุ มีซุ้ม 4 ทิศ ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืน ส่วนยอดธาตุมียอดปลีเล็กแซมทั้ง 4 ด้าน ยอดกลางทรงสี่เหลี่ยมสอบ มี 2 ชั้น รูปแบบการก่อสร้างคล้ายกับพระธาตุก่องข้าวน้อยและทางวัดจะจัดให้มีงานสมโภชพระธาตุอานนท์ขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนมีนาคม

นอกจากนี้ในพื้นที่วัดยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งทั้ง พระพุทธบุษยรัตน์ หรือพระแก้วหยดน้ำค้าง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสมัยเชียงแสน เป็นพระบูชาคู่บ้านคู่เมืองของยโสธร ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้พระสุนทรราชวงศาเจ้าเมืองยโสธรคนแรก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งจุดเช็คอินที่น่าสนใจที่ต้องบอกว่ามาถึงยโสธรแล้วไม่ได้มาถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียว 

ที่ตั้ง : วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.ยโสธร

เวลาเปิดปิด : เวลา 08.30-16.30 น.

 พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อ.เมือง จ.ยโสธร พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก หรือ พิพิธภัณฑ์พญาคางคก ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสุดโด่งดังใน จ.ยโสธร ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมักจะไม่พลาดเดินทางมาเช็คอิน ตัวพิพิธภัณฑ์ฯ ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะพญาแถน ตัวอาคารสร้างเป็นรูปคางคกขนาดใหญ่ภายในมีความสูง 5 ชั้น ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์รูปร่างแปลกตาที่สุดในประเทศไทย

ภายในอาคารมีเรื่องเล่าต่างที่สอดแทรกตำนานเกี่ยวกับพญาคางคกและบั้งไฟ ตำนานพื้นเมืองของชาวอีสานที่สอดแทรกเรื่องราวด้านวิทยาศาสตร์และความหลากหลายทางชีวภาพได้เป็นอย่างดี มีการจัดนิทรรศการบอกเรื่องเกี่ยวกับที่มาของบั้งไฟโดยมีการจัดฉายเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ และนิทรรศการเกี่ยวกับคางคกชนิดต่าง ๆ ที่พบได้ในเมืองไทย กว่า 20 ชนิด อีกด้วย

ที่ตั้ง : ริมอ่างเก็บน้ำลำทวน อ.เมือง จ.ยโสธร

พระธาตุก่องข้าวน้อย อ.เมือง จ.ยโสธร  ธาตุก่องข้าวน้อย หรือหลายคนเรียกว่า พระธาตุก่องข้าวน้อย ตั้งอยู่ในกลางทุ่งนาของหมู่บ้านตาดทอง จ.ยโสธร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 กิโลเมตร ตัวองค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลก ๆ เพราะมีลักษณะคล้ายก่องข้าว องค์ธาตุเป็นเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สาม ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 2 ม. ก่อสูงขึ้นไปประมาณ 1 เมตร ช่วงกลางขององค์ธาตุมีลวดลายทำเป็นซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน

ถัดจากช่วงนี้ไปเป็นส่วนยอดของเจดีย์ที่ค่อย ๆ สอบเข้าหากัน ส่วนยอดรอบนอกของธาตุก่องข้าวน้อยมีกำแพงอิฐล้อมรอบ และบริเวณด้านหลังองค์ธาตุมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่งก่อด้วยอิฐ นับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และในช่วงเดือน 5 (เมษายน) จะมีการประเพณีสรงน้ำพระและปิดทองเพื่อให้ฝนตกตามฤดูกาลไม่แห้งแล้งเป็นประจำทุกปี

ที่ตั้ง : ตำบลตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร 

Vachi Coffeebar&bistro, Coffee with space for ALL  ร้านกาแฟสดสไตล์ฮิป ๆ ผสมผสานงานลอฟท์ ๆ เข้ากันอย่างลงตัว เกิดจากความฝันของ 3 พี่น้องที่อยากมีร้านกาแฟ นั่งชิล ๆ สวย ๆ ในแบบฉบับของตัวเอง

สำหรับบรรยากาศร้านก็เหมาะแก่การนั่งทำงาน เป็นส่วนตัว หรือรับรองแขก หรือนัดพบปะเพื่อน ๆ สามารถมานั่งชิล ๆ ถ่ายรูปสวย ๆ กับมุมต่าง ๆ ของร้านได้ทุกวัน ส่วนเมนูอร่อยเลิศประจำร้านก็คือ กาแฟสด, เครื่องดื่มต่าง ๆ และเบเกอร์รีโฮมเมดที่เจ้าของร้านทำเองทุกถาด ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ชิค ๆ ชิล ๆ ของคนยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้เป็นอย่างด

นอกจากนี้ทางร้านยังจำหน่ายสินค้าฝีมือไทยโสฯ งานฝีมือชาวบ้าน ถุงผ้าชิค ๆ ผ้าพันคอ สินค้า Va-chi’s Brand รวมไปถึงสินค้า OTOP ต่าง ๆ อีกด้วย 

ที่ตั้ง : 174/1 ถ.แจ้งสนิท อ.เมือง จ.ยโสธร

เวลาเปิดปิด : เวลา 08.00-18.00 น.

โทรศัพท์ : 088 242 4629

ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นกุดชุม อ.เมือง จ.ยโสธร  เอาใจคนรักเมนูเส้นกับ ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นกุดชุม ร้านเจ้าเด็ดต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อรส เจ้าเก่าและเจ้าแรกแห่งเมืองยโสธรเปิดขายมานานกว่า 40 ปี ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยลูกชิ้นสูตรพิเศษจาก อ.กุดชุมแท้ ๆ ผลิตจากเนื้อสดใหม่ทุกวัน เน้นความสะอาด ใช้แป้งน้อย ปรุงรสอร่อยลงตัว ปลอดภัย ไร้สารกันบูด

โดยเมนูก๋วยเตี๋ยวจากทางร้านจะมีทั้งเนื้อสด-เปื่อย ลูกชิ้นเนื้อ เอ็นและหมู เด้ง จะสั่งทานพร้อมเส้น หรือจะสั่งเป็นเกาเหลาลูกชิ้น ซดกับน้ำซุปรสกลมกล่อมก็อร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสั่งเป็น ยำลูกชิ้น, ยำรวมและลูกชิ้นลวกจิ้มแจ่วมาเคี้ยวเล่นๆ ก็อร่อยได้เช่นกัน ส่วนราคาก็กันเองเริ่มต้นที่ชามละ 30 เข้ากันกับบรรยากาศตัวร้านที่เรียบง่ายเน้นรับลมโล่งๆ สบายๆ

ที่ตั้ง : 459 ม.14 ต.กุดชุม อ.กุดชุม จ.ยโสธร

เวลาเปิดปิด : เวลา 07.00-16.00 น.

โทรศัพท์ : 081 955 7424, 082 867 6777


ร้านไร่ฮักคัก อ.เมือง จ.ยโสธร  ที่นี่เป็นมากกว่าร้านอาหาร เพราะเค้ามีไร่ที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัส ได้ดู ได้เห็น พร้อมลงมือทำด้วยตัวเองเลยทีเดียว มีการแบ่งจุดท่องเที่ยวเอาไว้หลายจุดทั้งผืนนา โรงเรือนต่าง ๆ การสาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมัก ให้ความรู้กับเกษตรกรและนักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าไปดูงานอีกด้วย

ในส่วนของร้านอาหารเองนั้น ที่นี่เป็นช่องทางหนึ่งที่ลูกค้าสามารถแวะเวียนมาชม ชิม ชอปสินค้าทางการการเกษตรของไร่ได้ โดยวัตถุดิบที่นำมาเสิร์ฟก็หาได้จากภายในไร่นี่เอง เมนูแนะนำของร้านก็มีให้เลือกทั้ง ข้าวซอย ขนมหวานและเครื่องดื่มชา-กาแฟก็จัดเต็ม ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศดี เจ้าของร้านใจดีเป็นกันเองแนะนำให้แวะมาที่นี่ ร้านอาหารไร่คักเลยแห่งนี้เลย

ที่ตั้ง : 232/7 ถ.รัตนเขต ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร

เวลาเปิดปิด : เวลา 08.00 – 17.00 น.

โทรศัพท์ : 092 935 2451

ชุมชนบ้านท่าสิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร ลองเปลี่ยนแนวมาเที่ยวชุมชนสัมผัสความเก่าแก่ของเมืองยโสธรกันบ้างกับ ชุมชนบ้านท่าสิงห์ ย่านการค้าสำคัญในอดีตที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อนในสมัยฝรั่งเศสเข้ามามีอิทธิพล ซึ่งความเจริญในยุคนั้นได้นำพาเอาช่างฝีมือเข้ามาสร้างตึกรางบ้านช่องแบบศิลปกรรมชิโนโปรตุกีสไว้จำนวนมาก และกลายเป็นเสน่ห์ให้ชุมชนบ้านสิงห์ท่าดูสวยงาม น่าเที่ยว น่ามาเช็กอินถ่ายรูปฟิน ๆ มาจนทุกวันนี้ 

ปัจจุบันยังคงเหลืออาคารและตึกให้เที่ยวชมได้ตลอด 2 ข้างทางที่ ถ.ศรีสุนทร, ถ.นครทุมล ถ.อุทัยรามฤทธิ์ และ ถ.วิทยธำรง ซึ่งบางแห่งยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก บอกถึงบรรยากาศของความเป็นอดีตได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันอีกหลายที่ก็ถูกปล่อยให้รกร้างขาดคนอาศัย 

ที่ตั้ง : ชุมชนบ้านสิงห์ท่า ต.สิงห์ท่า อ.เมือง จ.ยโสธร 


ร้านบ้านคุณย่า อ.เมือง จ.ยโสธร  เป็นอีกหนึ่งร้านบรรยากาศสบาย ๆ ใน จ.ยโสธร ที่หลายคนไม่ควรพลาด ตัวร้านมีที่นั่งเป็นโซนห้องแอร์สามารถนั่งชิลล์ได้สบาย ๆ ภายใต้การตกแต่งร้านที่เรียบง่าย จัดโต๊ะแบบโล่ง ๆ นั่งสบาย เมนูอาหารก็มีให้เลือกมากมาย อาทิ ยำปูนิ่มทรงเครื่อง, ผัดขนมเส้นทรงเครื่อง, ข้าวผัดเวียดนามห่อไข่, สลัดญี่ปุ่น, ส้มตำต้นอ่อนทานตะวัน, ส้มตำกุ้งทอด, ต้มแซบไก่บ้าน และหอยแมลงภู่อบหม้อดิน เป็นต้น

แต่สำหรับใครที่อยากกินน้อย ๆ แบบประหยัดที่นี่ก็มีบริการอาหารจานเดียวให้เลือกอีกเช่นกัน ส่วนของหวานก็มีให้เลือกอย่างจุใจ ทั้งเค้กนมสด, เค้กสังขยา, เค้กวุ้น สามารถเลือกทานที่ร้านหรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้เช่นกัน แถมเราสามารถสั่งเค้กที่ตกแต่งหน้าเค้กด้วยการพิมพ์ลายรูปหน้าเจ้าของวันเกิดลงบนหน้าเค้กได้อีกด้วย 

ที่ตั้ง : 220/11 ถ.รัตนเขต ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร

เวลาเปิดปิด : เวลา 07.00-21.00 น.

โทรศัพท์ : 045 711 053

พระมงคลมิ่งเมืองในพุทธอุทยาน จ.อำนาจเจริญ  ปิดท้ายกันที่ พุทธอุทยานและพระมงคลมิ่งเมือง จ.อำนาจเจริญ ตั้งอยู่บริเวณเขาดานพระบาท ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือประมาณ 3 ก.ม. ที่นี่เป็นเหมือนปอดของอำนาจเจริญเปิดเป็นสวน สาธารณะในชาวอำนาจเจริญเข้ามาเดินเล่นออกกำลังกาย วิ่น ปั่นจักรยานอย่างสดชื่นกับธรรมชาติและต้นไม้

พลาดไม่ได้เลยก็คือ การได้เข้าไปสักการะ พระมงคลมิ่งเมือง พระพุทธรูปปางมารวิชัยคู่บ้านคู่เมืองอำนาจเจริญที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2508 เป็นพระพุทธรูปคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับกระเบื้องโมเสกสีทองทั้งองค์ ขนาดหน้าตักกว้าง 11 ม.มีความสูง 20 ม. สร้างขึ้นมาจากความร่วมมือของชาวบ้านและส่วนราชการใน จ.อุบลราชธานี ก่อนจะแยกตัวออกมาเป็น จ. อำนาจเจริญในปัจจุบัน 

ที่ตั้ง : ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ