ผ้าหมี่ขิด/ผ้าย้อมสีจากบัว กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก จ. อุดรธานี

ประวัติความเป็นมา

บ้านโนนกอก เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2558  คุณอภิชาติ พลบัวไข หรือ ต้น นักปราชญ์ชาวบ้าน เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนไม่ได้มีการทอผ้ามา 20 ปี และเริ่มสูญหายไป จึงอยากฟื้นฟูการทอผ้าของชุมชน ช่วงแรกยังไม่มีตลาด เนื่องจากลวดลายยังไม่สวย และยังดูไม่มีเอกลักษณ์ จนสำนักงานพัฒนาชุมชนเข้ามาแนะนำ หลังจากเริ่มศึกษา ค้นหาวิธีของตัวเอง จนค้นพบวิธีการย้อมผ้าด้วยบัวแดง เอกลักษณ์ที่สำคัญของชุมชน หลังจากที่โพสต์ลง Facebook มีลูกค้ามาบอกว่าสวย จึงเริ่มขายทาง online ขึ้น ปัจจุบันก็เข้าปีที่ 5 แล้ว ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น และความเป็นอยู่ดีขึ้น จากอาชีพเสริมไปสู่อาชีพหลัก

นอกจากนี้ บ้านโนนกอกยังได้รับเลือกให้เป็น หมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีอันดับ 1 ของ จ. อุดรธานี และยังได้รับรางวัล Knowledge Based OTOP (KBO) การสร้างนวัตกรรมชุมชนระดับประเทศ อีกด้วย

 

เอกลักษณ์ความโดดเด่นของผ้า

ที่นี่มีการย้อมผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ คือ การย้อมสีผ้าด้วยกลีบดอกบัว ดอกบัวแดงย้อมได้ถึง 3 สี เป็นสิ่งมหัศจรรย์จากสีธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารเคมี แต่ก็ยังสามารถผสมเคมีแล้วได้ราคาที่ตลาดจับต้องได้ ต่อให้ราคาไม่สูงก็ยังสามารถใช้ผ้าย้อมจากดอกบัวได้ จึงกลายเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนว่า มาที่โนนกอกต้องมาดูผ้าย้อมบัวแดง

ที่ตั้งและการติดต่อ

แหล่งผลิต : กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก

ที่ตั้ง : 63 ม. 18 บ้านโนนกอก ต. หนองนาคำ อ. เมือง จ. อุดรธานี

โทรศัพท์ : 09 3547 8255 (คุณอภิชาติ พลบัวไข)

 

ลักษณะและลวดลายการทอหรือการผลิต

ในการทำผ้าย้อมจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ย้อมด้วยกลีบบัวสด ใช้กลีบส่วนกลาง นำมาปั่นและผสมมะนาว เพื่อทำให้สีติดดีขึ้น ยิ่งใช้สียิ่งเข้ม และต้องเป็นมะนาวสดเท่านั้น แล้วจึงนำฝ้ายหรือไหมมาทำการย้อม โดยขยี้ผ้าประมาณ 30 นาที แล้วทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง เรียกว่าวิธีการย้อมเย็น จะได้เป็นสีชมพูหรือสีม่วง ส่วนสีชมพูสด ต้องใช้ดอกบัวที่พึ่งเก็บมาแล้วย้อมเลยทันทีถึงจะได้สีนี้ ซึ่งการย้อมในแต่ละครั้งจะได้สีไม่เหมือนกัน ส่วนการย้อมร้อน คือ การนำบัวไปต้มในน้ำสะอาด ย้อมได้ทั้งสดและแห้ง  ดอกบัวตากแห้ง จะได้สีน้ำตาลทอง ส่วนสายบัวตากแห้ง จะได้สีเทาเงิน สีที่ย้อมจากบัวแดงจะมีความติดทนนาน สีไม่ตก ผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์ของสถาบันอุตสาหกรรมสิ่งทอ ขนาดผ้ามาตรฐาน หน้ากว้าง 1 เมตร ยาว 4 เมตร

ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงหรือโดดเด่น

สำหรับใครที่อยากมาชมภูมิปัญญาการทอผ้า ณ บ้านโนนกอก ที่นี่มีทั้งวิถีชีวิตที่เรียบง่ายในชุมชน ตั้งแต่ใส่บาตรในตอนเช้า เก็บดอกบัว ไปจนถึงย้อมดอกบัวให้ได้เห็นกันใน 1 วัน สำหรับคนที่อยากค้างคืนก็มีรีสอร์ตชุมชนให้ได้เข้ามาพักผ่อนด้วยเช่นกัน และในอนาคตจะมีการจัดระเบียบพื้นที่ให้มีทั้งที่พัก ที่ศึกษางาน และที่รับประทานอาหารอีกด้วย

ผ้าฝ้ายย้อมคราม กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองเทศบาลตำบลบ้านเชียง จ. อุดรธานี

เอกลักษณ์ความโดดเด่นของผ้า

ผ้าฝ้ายย้อมคราม บ้านเชียง เป็นผ้าทอพื้นเมืองที่เป็นมรดกตกทอดกันมาทางด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องของเสื้อผ้าและเครื่องแต่งตัวตามอารยธรรมชุมชนไทพวนที่ถักทอเองและตัดเย็บสวมใส่เอง สิ่งสำคัญที่เด่นอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ คือ เป็นเครื่องแต่งกายของชาวไทพวน ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่นชัดเจน และในปัจจุบันได้นำเอาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษแต่ดั้งเดิมมาสานต่อให้เกิดเป็นชิ้นงานที่มีคุณค่า มีเอกลักษณ์ โดยนำลวดลายที่มาจากเครื่องปั้นดินเผาของบ้านเชียงมาสร้างสรรค์ต่อยอด จนสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านบ้านเชียง อีกทั้งยังสร้างชื่อเสียงให้กับบ้านเชียงด้วย

ที่ตั้งและการติดต่อ

แหล่งผลิต : กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองเทศบาลตำบลบ้านเชียง

ที่ตั้ง : 108 ต. บ้านเชียง อ. หนองหาน จ. อุดรธานี

โทรศัพท์ : 08 3345 6839

 

ลักษณะและลวดลายการทอหรือการผลิต

สมัยที่ 1 กลุ่มสตรีทอผ้าพื้นเมืองบ้านเชียง เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2514 มีคุณยายทองล้วน สิทธิพรหม เป็นประธานกลุ่ม ซึ่งมีการทอผ้าแบบพื้นเมืองและย้อมสีธรรมชาติ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และในปี พ.ศ. 2516 ได้พัฒนารูปแบบเป็นกี่กระตุกซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านวิชาและงบประมาณวัสดุอุปกรณ์ จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดให้มีการฝึกอบรมพัฒนาคุณภาพผ้าทอพื้นเมืองและสีย้อมให้มีคุณภาพดีมาตลอด

สมัยที่ 2 กลุ่มทอผ้าเทศบาลตำบลบ้านเชียง เป็นกลุ่มทอผ้าที่ดำเนินการต่อเนื่องมาจากกลุ่มสตรีทอผ้าเดิม พ.ศ. 2547 มีเครื่องมือ อุปกรณ์ เป็นกี่ทอผ้าแบบกี่กระตุก สมาชิกทุกคนยังเป็นสมาชิกกลุ่มเดิม มีผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมาแล้วสามารถจำหน่ายได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่กลุ่มเป็นอย่างมาก พอเข้าสู่

สมัยที่ 3 กลุ่มทอผ้าเทศบาลตำบลบ้านเชียง เป็นกลุ่มทอผ้าที่ดำเนินการต่อเนื่อง นำโดย คุณแม่สุนทรี มัญญะหงษ์ เป็นประธานกลุ่ม เริ่มตั้งแต่ มกราคม 2555 ซึ่งจัดเป็นศูนย์เรียนรู้ในด้านสิ่งทอและหัตถกรรมไทย มีสมาชิกร่วมกิจกรรรมและเครือข่ายประมาณ 50 คน มีกี่ทอผ้าแบบพื้นเมืองและระบบกี่กระตุก มีกี่แบบประยุกต์กระตุกผสมกี่พื้นเมือง ย้อมสีธรรมชาติ (ย้อมคราม)

 

ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงหรือโดดเด่น

ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มทออยู่ปัจจุบัน ได้แก่ ผ้าพันคอ, ผ้าตัดเสื้อ, ผ้าซิ่นมัดหมี่ 2 ตะกอ และ 4 ตะกอ ผ้าขาวม้า, ผ้าคลุมไหล่, และผ้าสีพื้นเรียบสำหรับตัดชุดไทพวน และรับทำผ้าตามสั่งทั่วไป ปัจจุบันกลุ่มผ้าทอบ้านเชียงมีรายได้ต่อเดือน อยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบาท หรือบางเดือนที่ขายดีมาก ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 5-7 หมื่นบาท ซึ่งจะแบ่งรายได้ให้กับสมาชิกในกลุ่มตามงานที่ทำ โดยมีช่องทางการขาย 2 ช่องทาง เป็นหน้าร้านเปิดขายที่กลุ่มผ้าทอบ้านเชียง และขายผ่านช่องทางออนไลน์มีหน้าเว็บไซต์ และหน้าเพจเฟซบุ๊ก โดยรายละเอียดของการขายก็จะปรากฏให้เห็นที่หน้าเพจเลย เพื่อความง่ายและความสะดวกของคนที่สนใจ หรือต้องการจะซื้อ ส่วนสีผ้าที่เป็นที่นิยมของคนในปัจจุบันก็คือ สีพื้น ๆ อย่างสีดำ สีกรมท่า และสีคราม

ปัจจุบันนอกจากจะเปิดทอผ้าขายเป็นอาชีพเสริมแล้ว ทางกลุ่มยังจัดตั้งให้กลุ่มทอผ้าที่นี่เป็นเสมือนแหล่งเรียนรู้ให้กับนิสิตนักศึกษาและผู้ประกอบการทั่วไป ที่ต้องการศึกษาเรียนรู้ขบวนการด้านสิ่งทอ ที่สนใจซึ่งทางกลุ่มยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ตามที่ท่านต้องการ