วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวแบบทีเดียว3จังหวัด ครบทั้ง ไหว้พระ ไหว้พญานาค ขอโชคลาภให้ชีวิตปังๆ
หรือใครชอบเที่ยวธรรมชาติ ก็มีวิวสวยๆมาฝากกัน รวมถึงคาเฟ่เก๋ๆ ถ่ายรูปได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ จัดมาให้อย่างเต็มอิ่ม หรือใครสายพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ควรพลาด ไปดูกันครับ ว่าผมไปที่ไหนมาบ้าง แล้วทุกคนจะสนุกไปกับสามจังหวัดสนุกอย่างแน่นอน
“มุกดาหาร”
1.วัดภูมโนรมย์ หรือวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์
นอกจากจะเป็นศาสนสถานเก่าแก่ ยังโดดเด่นด้วยพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ พระพุทธรูปปางมาวิชัยที่สูงถึง 84 เมตร พระธาตุภูมโนรมย์ ทรงแปดเหลี่ยม รวมไปถึงปู่ศรีมุกดา รูปปั้นพญานาคขนาดยักษ์จากฝีมือช่างที่งดงาม เนื่องจากทำเลที่ตั้งของวัดซึ่งอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์ จึงทำให้กลายเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดมุกดาหารด้วย โดยสามารถมองเห็นทั้งวิวแม่น้ำโขง ตัวเมืองมุกดาหาร ไกลไปจนถึงแขวงสะหวันนะเขต ฝั่งสปป.ลาว แถมตรงจุดชมวิวนี้ยังมีภาพวาดสามมิติให้ได้ถ่ายรูปเล่นเพลินๆ ด้วย
ที่ตั้ง : อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
เวลาเปิด-ปิด : 08:30-17:00 น. ทุกวัน
โทร. : 042 676 352-3
2. พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช
แลนด์มาร์คสวยๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณแก่งกะเบา แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมานานของจ.มุกดาหาร เป็นประติมากรรมพญานาคประดับหินอ่อนที่โดดเด่นด้วยรูปร่างสีขาวหมอกสง่างาม สูง 11 เมตร ยาว 51 เมตร และยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล เชื่อว่าคนที่มากราบไหว้สักการะ และได้ลอดท้องพญานาคที่นี่ จะมีความสุขสมหวังดังคำอธิษฐาน นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันยังมีทั้งลานนักษัตร 12 ราศี และลานวัฒนธรรม 8 ชนเผ่า ให้ถ่ายรูปและพักผ่อนกับวิวริมแม่น้ำโขง ที่สำคัญอย่าลืมลิ้มลอง “หมูหัน” หนังกรอบๆ เนื้อนุ่มๆ ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของที่นี่ด้วย
ที่ตั้ง : ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-17:00 น. ทุกวัน
โทร. : 042 699 060
3.สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2
สะพานเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยและแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ความยาวกว่า 2.7 กิโลเมตร ที่นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเส้นทางขนส่งในภูมิภาค ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของจ.มุกดาหาร โดยบริเวณเขื่อนริมแม่น้ำโขงมีการสร้างถนนและบันไดเพื่อเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
โดยเฉพาะในช่วงเย็นจะมีร้านรวงต่างๆ มาเปิดขายของกินและของฝาก พร้อมตั้งโต๊ะเล็กๆ บนเสื่อเรียงไปตลอดริมฝั่ง เหมาะสำหรับมานั่งชมวิวสะพานที่สวยงาม และปิกนิกกินอาหารด้วยกันทั้งครอบครัว
ส่วนใต้สะพานเป็นที่ตั้งของ ศาลองค์ปู่พญานาค สร้างเพื่อบวงสรวงให้กับองค์พญานาคอันศักดิ์สิทธิ์ในสมัยที่สะพานแห่งนี้กำลังก่อสร้าง ลักษณะเป็นรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่พันรอบเสา โดยหันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง ดูสง่างามน่าเกรงขาม ใกล้ๆ กันเป็นรูปปั้นย่านาคน้อย รวมไปถึงรูปปั้นพญานาคพ่นน้ำ ทางศาลยังมีเครื่องสักการะให้นำไปลอยในแม่น้ำโขงด้านล่างเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย
ที่ตั้ง : บ้านสงเปือย ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน
4.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีไฮไลท์อยู่ที่ กลุ่มหินเทิบ ซึ่งเป็นหินขนาดใหญ่ซ้อนกัน ผ่านการกัดกร่อนตามกาลเวลา ตั้งกระจายอยู่บนลานหิน มีรูปร่างคล้ายเครื่องบินไอพ่น จานบิน เก๋งจีน มงกุฎ หัวจระเข้ หอยสังข์ ฯลฯ จากกลุ่มหินคือ ลานมุจลินท์ ซึ่งจะมีดอกไม้ป่าเล็กๆ บานสะพรั่งให้ชมในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมด้วย
และไม่ไกลจากจุดนี้คือ ผาอูฐ ซึ่งเป็นหินรูปร่างคล้ายอูฐ และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทั้ง ภูถ้ำพระ ผาผักหวาน และผาขี้หมู ได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงหุบเขาและป่าไม้เขียวขจีเบื้องล่างด้วย
ที่ตั้ง : ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-16:30 น. ทุกวัน
โทร. : 042 676 474
5.ช่างทอง ฟาร์ม คาเฟ่
เป็นคาเฟ่วิวทุ่งนา มีกิจกรรมให้ทำ เหมาะสำหรับพาครอบครัวไป มีคอกม้า ฟาร์มสัตว์ต่างๆ มีเรือเป็ด วิวชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นสวยมากๆ เครื่องดื่มชาไข่มุก และเค้กต่างๆ มีครบ ใครที่มาเที่ยวมุกดาหาร ไม่ควรพลาดสำหรับคาเฟ่แห่งนี้
พิกัด : CHANGTHONG FARM & CAFE
ที่ตั้ง: 326 บ้านคำเม็ก จ.มุกดาหาร
โทร. 086 412 8283
6.ลานพญานาควัดป่าภูฮัง
เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป กราบไหว้ พญานาค มีความสงบ ร่มรื่น สายมูไม่ควรพลาดในการไปไหว้ขอพร องค์ปู่พญานาค รวมถึงหลวงพ่อองค์ดำ ที่ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่นี่ด้วย
พิกัด : ลานพญานาควัดป่าภูฮัง
ตำบล หนองแวง อำเภอ นิคมคำสร้อย มุกดาหาร 49130
https://goo.gl/maps/5iUJYaj6sjb1VSBr6
7.วัดดานพระอินทร์
วัดที่ต้องบอกว่าสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลย โดยตั้งอยู่กลางป่าแบะธรรมชาติที่สวยงาม จากวัดสามารถมองเห็นวิวกังหันลมด้วย สำหรับความน่าสนใจของวัดนี้คือมีองค์พญานาคที่สวยงามมากๆ รวมถึงช้างสามเศียร ที่อยู่หน้าเจดีย์
พิกัด : วัดดานพระอินทร์
ตำบล ร่มเกล้า อำเภอ นิคมคำสร้อย มุกดาหาร 49130
โทร. 089 001 5594
https://goo.gl/maps/9n773xHqBkiEUqjEA
6. Jungle space cafe & bistro
คาเฟ่สไตล์ แคมป์ปิ้ง สุดชิค สุดคูล มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ เอาใจสาวๆกับแปลงดอกไม้ และบันไดสวรรค์ แบบไม่ต้องไปไกลถึงเวียดนาม แค่เตรียมชุดพริ้วๆกระโปรงสวยๆไปก็พอ
ที่นี่มีทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ราคาไม่แพงเลย ได้ลองทาน มัชชะลาเต้ อร่อยหอมชาเขียว ไม่หวานจนเกินไป สายชาเขียวควรสั่งมาลอง
พิกัด : Jungle Space Cafe & Bistro
ที่ตั้ง : ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม
โทร. 098 258 2006
“นครพนม”
1.พญาศรีสัตตนาคราช
มานครพนมรอบนี้ต้องไม่พลาดแวะมาสักการะพญาศรีสัตตนาคราชสิ่งศักดิ์สิทธิ์และแลนด์มาร์กเมืองนครพนม ตั้งอยู่บนลานศรีสัตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณหน้าสำนักงานป่าไม้ ถ.สุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม สำหรับเอกลักษณ์เด่นของ “พญาศรีสัตตนาคราช” คือการสร้างองค์พญานาคสีเหลืองทองขนาดใหญ่ ตามความเชื่อของชาวริมโขงทั้งไทยและลาว ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมและสักการะขอพรกันเป็นจำนวนมาก
ที่ตั้ง: อ.เมือง จ.นครพนม
2. วัดนักบุญอันนาหนองแสง
แลนด์มาร์คสวยๆ บน ถ.สุนทรวิจิตรเลียบริมแม่น้ำโขง ตัวโบสถ์คริสต์ก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 ถูกออกแบบโดยบาทหลวงเอดัวร์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบโบราณมีเอกลักษณ์ของคนหลายเชื้อชาติเข้าด้วยกันทั้งไทย, จีน, ลาว และเวียดนาม
เมื่อเดินเข้ามายังบริเวณเบื้องหน้าของโบสถ์ นักท่องเที่ยวจะสะดุดตากับหอคอยคู่ที่ตั้งอยู่เหนืออาคารขึ้นไป ปลายยอดแหลมดูเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ซึ่งเดิมที่นี่เปิดให้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ภายหลังที่มีการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลก โบสถ์แห่งนี้ก็ได้รับความเสียหายจนกระทั่งมีการสถานที่ประกอบพิธีใหม่ขึ้น แต่ตัวโบสถ์เดิมก็มีการบูรณะขึ้นใหม่ ตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมโคโรเนียล ส่วนอาคารสีเหลืองด้านข้างก็สวยโดดเด่นเช่นกัน ซึ่งเปิดเป็น
มูลนิธิบาทหลวงเอดัวร์นำลาภ นั่นเอง
ที่ตั้ง : ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม
3. สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)
ว่ากันว่าที่นี่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว สะพานแห่งนี้เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ฝั่งประเทศไทย ที่บ้านห้อม ต.อาจสามารถ จ.นครพนม กับพื้นที่ฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ใช้เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้าและการท่องเที่ยว มีความยาวรวม 780 เมตร มีช่องลอดกว้าง 60 เมตร สูง 10 เมตร 2 ช่วง ความกว้างสะพาน 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง สำหรับสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) แห่งนี้เป็นหนึ่งในแนวทางพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ (ไทย-ลาว) ตามยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเชีย หรือ Asian Highway สาย AH 15
ที่ตั้ง : บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
4. พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม
หมู่บ้านเก่าแก่ที่อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศเวียดนาม ระหว่างปีพ.ศ. 2467–2474 ซึ่งประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ได้ใช้ชีวิตอยู่นานถึง 7 ปี และได้ใช้บ้านพักแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับติดต่อประสานงานและเคลื่อนไหวในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาติ จึงถือได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกอบกู้อิสรภาพให้แก่ประเทศเวียดนาม
ส่วนพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม บ้านลุงโฮที่สร้างขึ้นใหม่ จำลองชีวิตสมัยต่างของท่านประธานาธิบดี โฮจิมินห์ ไว้ตั้งแต่เด็ก และในสมัยที่อยู่ในประเทศไทยด้วย ส่วนบ้านที่เคยเป็นที่พักของท่านโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีเวียดนามเป็นบ้านชั้นเดียวก็ยังคงอยู่ สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะที่จะเป็นที่ศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในอดีตของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวเวียดนามจำนวนมากให้ความสนใจเข้ามาเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้
ที่ตั้ง : บ้านนาจอก หมู่ที่ 5 ตำบลหนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม
5.วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
พระอารามหลวงชั้นเอกซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระธาตุพนม โบราณสถานที่มีประวัติยาวนานนับพันปี โดยตามตำนานพระธาตุพนม หรืออุรังคนิทานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระอานนท์ เสด็จมาถึงดินแดนแถบนี้ ได้ทรงพยากรณ์ที่ตั้งเมืองมรุกขนคร (นครพนม) เอาไว้
ต่อมาหลังการเสด็จปรินิพพาน พระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ เข้าบรรจุภายในอุโมงค์ที่ก่อขึ้นบริเวณนี้ ก่อนที่จะเกิดการบูรณะปฏิสังขรณ์ต่อมาจนมีลักษณะเป็นองค์พระธาตุศิลปะอีสานที่งดงามในปัจจุบัน โดยพระธาตุพนมถือเป็น พระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอกด้วย
ที่ตั้ง : อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
เวลาเปิด-ปิด : 05:00-21:00 น. ทุกวัน
โทร. : 094 543 5888
“สกลนคร”
1. เที่ยวชุมชน แชะภาพตึกฝรั่งเศส มาถึงท่าแร่ถ้าไม่ได้ภาพชิคๆ คูลๆ กลับไปคงเสียเที่ยว เพราะนอกจากมีแลนด์มาร์กสำคัญอย่างอาสนวิหาร อัครเทวดามีคาแอล สถาปัตยกรรมรูปทรงหัวเรือสีขาวอลังการเพื่อระลึกถึงการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนรุ่นแรกในย่านท่าแร่แล้ว ในชุมชนคาทอลิกบ้านท่าแร่ยังมีตึกเก่าสไตล์ฝรั่งเศสอายุเกือบร้อยปีที่ยังคงความสวยงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นโลเกชั่นถ่ายรูปคูลๆ ได้เลย แล้วยังมีร้านกาแฟเล็กๆ ให้พักหลบร้อน นั่งดริ๊งค์ไปชมตึกเก่าไปด้วยก็เพลินดี
พิกัด : ชุมชนท่าแร่ตั้งอยู่ริมหนองหาร บนทางหลวงหมายเลข 22 (สกลนคร-นครพนม) ห่างจากตัวเมืองสกลนคร 21 กม.
2. เฮือนนางคราม
หนึ่งในงานคราฟต์ที่สร้างชื่อให้สกลนคร จึงไม่ควรพลาดที่จะมาเรียนรู้และลงมือทำผ้ามัดย้อมครามสักครั้ง สำหรับที่เฮือนนางครามของพี่นกหรือฐิติมา บุญต่าย มีกิจกรรมเว็ร์กช็อปสำหรับคนสนใจอยากลองย้อมครามในราคาหลักร้อย เริ่มตั้งแต่มัดผ้าเพื่อสร้างลายโดยใช้ลูกแก้ว เชือกฟาง ไม้หนีบผ้า หนังยาง แล้วนำผ้าลงย้อมในหม้อคราม ก่อนล้างครามส่วนเกินออก แค่นี้ก็จะได้ผ้าย้อมครามจากฝีมือของเรากลับบ้านแล้วล่ะ
พิกัด : 64 หมู่ 1 ถ.รัฐบำรุง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร โทร. 081-871-2945
3. พญาเต่างอย
ยิ่งใกล้วันหวยออก ที่เที่ยวแห่งนี้ยิ่งคึกคัก มีนักเสี่ยงโชคหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศเพื่อสักการะและขอโชคลาภจากรูปปั้นยักษ์ของพญาเต่างอย ทั่วบริเวณนั้นจะได้ยินเพลงเต่างอยของพี่จินตหรา พูนลาภ ดังอยู่ตลอด ส่วนเครื่องไหว้ก็มีขายโดยจัดใส่ตะกร้าให้พร้อมทั้งผักบุ้ง แตงกวา กล้วย น้ำแดง ธูปเทียน ไหว้เสร็จแล้วค่อยไปส่องหาเลขเด็ดรอบๆ รูปปั้น ลงเอยด้วยการเสี่ยงโชคตามแผงล็อตเตอร์ที่มีให้เลือกเป็นสิบๆ เจ้า ใครอยากไปขอโชคลาภจากพญาเต่างอยก็แล้วแต่ศรัทธานะจ๊ะ
พิกัด : อ.เต่างอย จ.สกลนคร
4.วัดถ้ำผาแด่น
อีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสายบุญไม่ควรพลาด ตัววัดตั้งอยู่บนภูเขาสูง ทางวัดจึงมีรถสองแถวรับ-ส่งจากด้านล่าง ภายในวัดมีจัดสวนสวยๆ และงานประติมากรรมแกะสลักหินทรายอลังการ เช่น ภาพแกะสลักหินรูปพระพุทธสีหไสยาสน์ขนาดยาว 19 เมตร รอยพระพุทธบาทจำลอง พระพุทธรูปหินแกะสลักปางประจำวันเกิด และภาพแกะสลักหิน 4 มหาเทพหรือพระเกจิอาจารย์ดังๆ ที่เคยมาวิปัสสนาที่นี่ รวมถึงมีจุดชมวิวที่มองเห็นตัวเมืองสกลนครและหนองหารด้วย
พิกัด : ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาภูพานและภูผายล ใกล้บ้านดงน้อย ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร
5. วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง
เป็นพระธาตุหินทรายบนฐานศิลาแลงในรูปแบบศิลปะเขมรสมัยปาปวน มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ที่น่าสนใจคือ ลวดลายสลักหินบนซุ้มประตุูหน้าต่างยังดูสมบูรณ์สวยงาม ซึ่งตามตำนานว่าพระธาตุแห่งนี้สร้างด้วยฝีมือของผู้หญิงล้วนๆ เพื่อแข่งขันกับผู้ชายที่สร้างพระธาตุภูเพ็ก จึงเป็นพระธาตุที่สะท้อนถึงพลังและศรัทธาของผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าผู้ชาย
พิกัด : อยู่ห่างจากตัวเมืองสกลนคร 5 กม. โดยใช้เส้นทางสกลนคร-อุดรธานีไปบ้านธาตุ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร
6.วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสกลนคร องค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ ภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระองค์แสน พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสนที่งดงาม รวมถึงมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เล่ากันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองพญานาคที่จมอยู่ใต้หนองหาร ซึ่งชาวสกลนครเชื่อว่าการมาสักการะพระธาตุเชิงชุมจะช่วยให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง รวมถึงขอพรให้มีโชคลาภ ได้เงินหมื่นเงินแสน…สาธุ…
พิกัด : อ.เมือง จ.สกลนคร
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ : HangTogether