พาเพื่อนๆ แบกเป้ตะลุยเที่ยว 3 จังหวัดดินแดนอีสานใต้ “บุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีสะเกษ” เมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานหลายพันปี
ที่ผ่านมาหลายหลายคนอาจนึกว่ามา “บุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีสะเกษ” จะมีแต่ปราสาทหินโบราณให้มาเที่ยวอย่างเดียว เอาจริงๆ แล้วพอมาเยือน เราพบว่า 3 เมืองอีสานใต้แห่งนี้มีทีเด็ดมากกว่าที่เรานึกซะอีก
โดยเฉพาะบุรีรัมย์ที่หลังๆ โดดเด่นเรื่องทีมฟุตบอลและกิจกรรมฮิตๆ มากมาย จนทำให้มีที่เที่ยว ที่กินใหม่ๆ หลายแห่ง เรียกกว่าถ้ามีเวลาน้อยๆ นี่เช็คอินกันแทบไม่ทันเลย ส่วนสุรินทร์- ศรีสะเกษ ก็อยู่ใกล้กันแค่นิดเดียว
มาแล้วเลยไปเที่ยวอีกหน่อยก็สนุก เพลิดเพลินๆ และประทับใจไม่น้อย เช็คลิสต์ที่เที่ยวโดนใจพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย

อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทพนมรุ้ง : หนึ่งในสองปราสาทขอมขนาดใหญ่ และได้รับการยกย่องให้เป็นปราสาทหินซึ่งสวยที่สุดของประเทศ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 15 – 17 โดยใช้หินทรายสีชมพูเป็นส่วนมาก ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทหินทราย สีชมพู นอกจากนี้ปราสาทพนมรุ้งยังตั้งอยู่บนภูเขาไฟเก่าที่ดับสนิท เปรียบเหมือนปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่บนเขาไกรลาศ ที่ประทับของพระศิวะ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย อีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่ คือ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ซึ่งอยู่บริเวณประตูทิศตะวันออกของปรางค์ประธาน โดยทับหลังชิ้นนี้เคยถูกโจรกรรมไปเมื่อปี พ.ศ. 2503 ก่อนภายหลังจะพบว่าจัดแสดงอยู่ในสถาบันศิลปะชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2516 จนทางรัฐบาลไทยต้องดำเนินเรื่องขอคืนกลับมาสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2531
ที่ตั้ง: ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา : 6.00-18.00 น.
ราคาเข้าชม: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา และผู้สูงอายุ เข้าชมฟรี
โทร.0 4466 6251 – 2

ปราสาทเมืองต่ำ : ปราสาทหินอีกแห่งที่มีความน่าเที่ยวชมของบุรีรัมย์ แม้ความยิ่งใหญ่ไม่อาจเทียบกับปราสาทพนมรุ้งก็ตาม สันนิษฐานว่าน่าจะได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานประจำชุมชน องค์ประกอบโดยรวมมีความงดงาม มีทับหลังสวยงามและสมบูรณ์หลายชิ้น มุมทั้งสี่ของปราสาทชั้นในมีสระน้ำใหญ่ แปลกตาด้วยประติมากรรมพญานาค 5 เศียร แต่เป็นเศียรมนเกลี้ยงไม่มีรัศมีซึ่งพบไม่บ่อยนัก ปราสาทเมืองต่ำน่าจะสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 ผ่านห้วงเวลาและถูกทิ้งร้างมานาน จนเกิดการตั้งถิ่นฐานของผู้คนอีกครั้ง ชาวบ้านเรียกว่าปราสาทเมืองต่ำคงเพราะเห็นว่าอยู่ต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้งบนภูเขานั่นเอง
ที่ตั้ง: บ้านโคกเมือง ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา : ทุกวัน 7.00-18.00 น.
ราคาเข้าชม: ผู้ใหญ่ 20 บาท บัตรรวมกับปราสาทพนมรุ้ง 30 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา เข้าชมฟรี

วนอุทยานเขากระโดง ป่ากลางกรุง วนอุทยานเขากระโดง หรือที่นักท่องเที่ยวคุ้นปากเรียกกันว่าภูเขาไฟกระโดง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ไม่กี่กิโลเมตร ได้รับการจัดตั้งเป็นวนอุทยาน ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่นี่ คือ ภูเขาไฟแต่ดับสนิทลงแล้วนับแสนๆ ปีก่อน ปัจจุบันยังมีบริเวณปากปล่องเดิมหลงเหลือสภาพให้เห็นแบบลางๆ ต้องใช้จินตนาการชมสักหน่อยวนอุทยานจัดทำสะพานแขวนเก๋ๆ ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันด้วย บนยอดเขากระโดงเป็นที่ประดิษฐานพระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ สามารถเดินขึ้นทางบันไดนาคทดสอบกำลังกาย หรือขับรถขึ้นไปก็ได้
ที่ตั้ง: ริมทางหลวง 2445 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา: ทุกวัน 8.00-18.00 น.
วนอุทยานเขากระโดง โทร.0 4451 4447

สนามช้างอารีน่า หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียมสนามฟุตบอลที่สร้างจากการแนวคิดสถาปัตยกรรมกว่าพันปี ปราสาทหินพนมรุ้ง จนปัจจุบันกลายเป็น ปราสาทสายฟ้า และ สนามฟุตบอลทีมลูกหนังชื่อดัง “บุรีรัมย์ยูไนเต็ด” มีความสวยงามและทันสมัยที่สุดในเมืองไทยสามารถจุผู้ชมได้มากถึง 32,600 คนเป็นสนามฟุตบอลในระดับ FIFA แห่งเดียวที่ถูกบันทึกไว้ว่าใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน

ชุมชนบ้านสนวนนอก มาบุรีรัมย์ต้องหาโอกาสมาเยือนที่นี่กันสักครั้ง แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวจังหวัด หมู่บ้านแห่งนี้อยู่จาก อ.ห้วยราช เพียง 2 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์เพียง 12 กิโลเมตร เท่านั้น เดินทางเข้าถึงได้สะดวกสบาย แต่เป็นหมู่บ้านที่ยังคงยึดถือวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย อาชีพหลักยังคงเป็นการทำนา และยามว่างเว้นจากการเกษตรก็ยังคงสืบสานการทอผ้าไหม “หางกระรอก” ตั้งแต่กระบวนการเลี้ยงไหม สาวไหม ตีเกลียว ไปจนถึงการทอผ้าออกมาเป็นผืนงาม
ที่นี่จึงได้รับการส่งเสริมจากหลายหน่วยงานให้เป็น “หมู่บ้านท่องเที่ยวไหมและวิถีชีวิตพอเพียง” ให้นักท่องเที่ยวที่รักการท่องเที่ยวชุมชน และสนใจเกี่ยวกับผ้าทอ หรืออยากมาสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายในถิ่นอีสานใต้ ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตไหมทั้งกระบวนการ อีกทั้งในหมู่บ้านยังมีการผลิตงานฝีมืออีกหลายอย่าง อาทิ การทำกระดิ่งผูกคอวัว เครื่องจักสาน การแปรรูปกะลามะพร้าว เป็นต้น
ที่ตั้ง : หมู่ 2 ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์
โทร.08 0472 4435

เพลาเพลิน จังหวัดบุรีรัมย์เติบโตด้านการท่องเที่ยวขึ้นมากในหลายปีที่ผ่านมา และหนึ่งสถานที่ที่มีส่วนสำคัญคือ เพลา เพลิน ซึ่งแม้จะเป็นที่เที่ยวเอกชน ทว่าก็มีส่วนร่วมกับการเดินหน้าของจังหวัดแทบทุกรูปแบบ ภายในเพลา เพลิน แบ่งเป็นหลายส่วน ตั้งแต่รีสอร์ทที่พัก กิจกรรมแอดเวนเจอร์ พิพิธภัณฑ์สะสมของเก่า กิจกรรมความรู้หมุนเวียน
และที่พลาดไม่ได้เป็นไฮไลท์คืออุทยานดอกไม้ จัดแสดงพรรณไม้ต่างๆ ใน 6 โรงเรือน ประกอบด้วยไม้ดอกตามฤดูกาล เฟิร์น กล้วยไม้ สับปะรดสี กระบอกเพชร หน้าวัว แต่ละโรงเรือนตกแต่งในธีมต่างกัน ใครชอบถ่ายรูปรับรองว่าสนุกแน่นอน
นอกจากเพลินกับดอกไม้สวยและมุมถ่ายรูปต่างๆ บริเวณด้านหน้ายังมีร้านกาแฟ สินค้าของที่ระลึกซึ่งรวบรวมมาจากทั้งในบุรีรัมย์และพื้นที่อีสานใต้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนการสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ด้วย
ที่ตั้ง: ริมถนน ทล.2074 ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา : จันทร์-ศุกร์ 9.00-18.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.00-19.00 น.
ราคาเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 60 บาท
โทร. 08 7798 1039

ร้านอาหารสองพี่น้อง แวะเติมพลังกันสักหน่อยกับร้านอาหารสองพี่น้อง เป็นร้านอาหารอีสานเก่าแก่ที่เปิดมานานนับสิบปี บรรยากาศร้านกว้างขวาง เปิดโล่ง และนั่งสบาย โดยมีเมนูรสเด็ดขึ้นชื่อที่หลายคนติดอกติดใจบอกกันปากต่อปากนั่นคือ สารพัดเมนูเป็ด ไม่ว่าจะเป็นลาบเป็ดแบบธรรมดา ลาบเป็ดใส่เลือด ไส้เป็ดทอด ต้มแซ่บเป็ด หัวเป็ดทาดี เรียกกว่ามีให้เลือกเกือบทุกอย่าง
นอกจากนี้ยังมีจานเด็ดแนะนำอีกเช่น ลาบหมู ลาบเนื้อ ตับหวาน ต้มเนื้อเปื่อย ต้มยำไก่บ้าน ยำน้ำตกหมู หมูแดดเดียว ปลาส้มทอด แกงหน่อไม้สด ส้มตำไทย ส้มตำลาว ส้มตำปู ฯลฯ
ที่ตั้ง: ซอยไดโนเสาร์ กม.9 ถนนบุรีรัมย์-ประโคนชัย ตำบลสะแกข่า อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา: 07.00 – 19.00 น.
โทร.0-4463-7175, 08-1264-4862

เป็ดย่างคูเมือง ปัจจุบันมีขยายหลายสาขาหาทานได้ในอำเภอเมืองบุรีรัมย์ด้วย แต่ต้นตำรับและร้านดั้งเดิมต้องมาที่อำเภอคูเมือง ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ประมาณ 35 กิโลเมตร ร้านตั้งริมถนนใหญ่ ทล.2074 หาไม่ยาก เมนูเด็ดของร้านก็คือ เป็ดย่างนั่นเอง ย่างแบบหอมหนังกรอบเนื้อไม่แห้งเกินไป
นอกจากนี้ยังมีตูดเป็ดย่างเป็นที่ขึ้นชื่อลือชา เนื้อนุ่มอร่อยจิ้มน้ำจิ้ม แซ่บเว่อร์ รวมถึงไส้เป็ดทอด กรอบเหมือนกับกินขนมคบเคี้ยว กินได้เพลินๆ ลูกค้าจะซื้อกลับบ้านหรือนั่งกินในร้านก็ได้ มีเมนูอาหารอีสานอื่นๆ ส้มตำ ลาบ น้ำตก ต้มแซ่บ รสชาติอร่อยให้เลือกอีกหลายอย่าง ร้านสะอาดสะอ้าน บรรยากาศสบาย
ที่ตั้ง: ถ.บุรีรัมย์-คูเมือง ทล.2074 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา: วันอังคาร-อาทิตย์ 8.00-17.00 น.
โทร.08 3554 7126

Zixgar Cafe’ Buriram มาที่เดียวครบจบทุกเรื่องอาหารคาว-หวาน เลยก็ว่าได้สำหรับร้านนี้ Zixgar Cafe’ Buriram กับบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งอย่างโล่งสบาย ในโทนสีขาว, ดำ และสีไม้ ส่วนที่นั่งก็มีแบ่งโซนให้เลือกหลายมุม เหมาะมาก ๆ สำหรับใครชวนเพื่อนมานั่งชิลล์ๆ
เมนูเด็ดของร้านที่ห้ามพลาดส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น อาทิ ต้มยำจิ๊กโก๋, ต้มยำกุ้งอบชีสหม้อไฟ, โทสต์สังขยามันม่วง และเครื่องดื่ม Coffee The Zixgar, ชา, กาแฟ, อิตาเลียนโซดาและน้ำผลไม้อีกหลายเมนู
ที่ตั้ง: 2/4-5 ถ.รมย์บุรี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา: 09.00-20.00 น.
โทร.09 0234 5190

The Tower Cafe & Hangout คาเฟ่-ร้านแฮงก์เอาท์เปิดใหม่กับอาคารที่ออกแบบสุดไฉไล ที่โดดเด่นด้วยอาคารรูปทรงแปลกตา บรรยากาศสวยมากเหมาะแก่การไปถ่ายรูปมาก ๆ มีที่นั่งค่อนข้างเยอะส่วนอาคารทรงสูงก็มีบันไดที่สามารถเดินวนไปชมวิวด้านบนร้านได้สบาย ๆ เมนูมัดใจลูกค้าของร้าน ได้แก่ Espresso, Cappuccino, Mocca, Late, Matcha, Chocolate, ชาไทยและอิตาเลี่ยนโซดา ทานคู่กับเค้ก ขนมปังสังขยาเข้ากันเป็นอย่างดี ส่วนเมนูคาวก็มี บรีชีสทอดกินคู่กับซอส, ข้าวคลุกกะปิ เป็นต้น พอตกเย็น ๆ มาทางร้านก็มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เอาใจคนชอบเที่่ยว
ที่ตั้ง: 559 ม.9 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
เปิดปิดเวลา: 07.00-22.00 น.
โทร.044 666 305

ปราสาทศีขรภูมิ ปราสาทหินหลังเล็กแต่ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามมาก เป็นหมู่ปรางค์ห้าองค์บนฐานศิลาแลงเดียวกัน เดิมชื่อปราสาทระแงง ตามที่ตั้งตำบลระแงง ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นศีขรภูมิ ตามชื่ออำเภอในเวลาต่อมา ความโดดเด่นของปราสาทศีขรภูมิ คือ เสาซุ้มประตูปรางค์ประธานทั้งสองฝั่งมีรูปแกะสลักนางอัปสราที่สมบูรณ์สวยงาม พบเพียงที่นี่ที่เดียวในประเทศ ทำให้นางอัปสรากลายเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ไปด้วย ด้วยการตั้งอยู่ในย่านชุมชนทำให้ที่นี่เดินทางมาเที่ยวไม่ยาก ไม่ไกลมากจากสถานีรถไฟศีขรภูมิ ทุกปีจะมีงานสืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิในเดือนพฤศจิกายน
ที่ตั้ง: บ้านปราสาท ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์
เปิดปิดเวลา: ทุกวัน 7.30-18.00 น.
ราคาเข้าชม: ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา ในเครื่องแบบเข้าชมฟรี

หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง คือสถานที่ที่ทำให้จังหวัดสุรินทร์ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองช้าง เพราะที่นี่เป็นชุมชนชาวกวยที่เลี้ยงช้างเป็นเพื่อนคู่ใจมายาวนาน และยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม และประเพณีของคนเลี้ยงช้างแต่ดั้งเดิม สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป การไปเยือนศูนย์คชศาสตร์ศึกษาเราจะได้ชมการแสดงความสามารถต่างๆ ของช้าง การนั่งช้างไปรอบพื้นที่ หรือใครสนใจการลอดท้องช้างเพื่อสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อก็ทำได้เช่นกัน แต่หากจะลงเจาะลึกกว่านั้นแนะนำให้พักโฮมสเตย์กับชาวบ้านจะได้เรียนรู้อีกมากมายพร้อมกับความสนุกที่เราจะได้รับจากการอาบน้ำกันช้าง ให้อาหารช้าง พาช้างเดินเล่น ฯลฯ
ที่ตั้ง: บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
เปิดปิดเวลา: 8.00-16.00 น. การแสดงช้างวันละสองรอบ 10.00 น. และ 14.00 น.
ราคาค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กโต 20 บาท เด็กเล็ก 10 บาท (มีค่ากิจกรรมต่างๆ เช่นนั่งช้าง ลอดท้องช้าง ต่างหาก การเข้าพักโฮมสเตย์และกิจกรรมมากกว่านั้น สามารถสอบถามโดยตรง)

ปราสาทสระกำแพงใหญ่ หากไม่นับปราสาทเขาพระวิหาร คงต้องถือว่าปราสาทสระกำแพงใหญ่คือปราสาทขอมที่น่ามาเยี่ยมชมที่สุดของจังหวัดศรีสะเกษ แม้ปัจจุบัน ตัวปราสาทอาจจะไม่สมบูรณ์นัก (หากเทียบกับปราสาทใหญ่อื่นๆ ) แต่ยังมีจุดเด่นหลายอย่างน่าสนใจ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าปราสาทสระกำแพงใหญ่สร้างในปีใด หรือยุคสมัยของกษัตริย์ขอมพระองค์ใด สันนิษฐานจากสถาปัตยกรรมคร่าวๆ ว่าคงสร้างระหว่างกลางถึงปลายพุทธศตวรรษที่ 16 โดยมีสิ่งสำคัญที่ค้นพบระหว่างขุดแต่งปราสาทคือจารึกอักษรขอมที่ซุ้มประตูระเบียงคต เทวรูปนันทิเกศวรความสูงกว่า 140 เซนติเมตร ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย รวมถึงทับหลังแกะสลักงดงามหลายชิ้น หนึ่งในนั้นเป็นภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์
ที่ตั้ง : ภายในวัดสระกำแพงใหญ่ ต.สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
เที่ยวชมได้ทุกวัน ตามเวลาที่เหมาะสม ไม่มีค่าเข้าชม

เขาพระวิหาร คงไม่มีคนไทยคนไหนไม่เคยได้ยิน อุทยานฯ แห่งนี้ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย ไม่ควรพลาด คือ การชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอกยามเช้าที่ผามออีแดง ผาตรงนี้เป็นหนึ่งในจุดชมวิวสวยสุดของอีสานใต้ มีฐานทหารและ ตชด. ดูแลอยู่เป็นจุดๆ แต่เราเที่ยวชมได้สบายใจ นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดย่อมอีกหลายแห่ง มีปราสาทเล็กๆ แต่ขรึมขลังและสวยงามคือปราสาทโดนตวล รวมทั้งจุดชมวิวอื่นอีกด้วย และแน่นอนว่าใครจะกางเต็นท์พักแรมที่อุทยานฯ ติดต่อได้เลย
ที่ตั้ง: ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
เปิดปิดเวลา: 5.30-16.30 น.
ราคาเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ค่าธรรมเนียมรถยนต์ 30 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
อช.เขาพระวิหาร โทร. 045826045

ไก่ย่างไม้มะดัน ใครเดินทางผ่านไปผ่านมาบนเส้นทาง ทล.226 อ.ห้วยทับทัน ศรีสะเกษ จะเห็นร้านขายไก่ย่างเรียงรายเต็มสองฝั่งถนนเป็นแนวยาวเชื่อหรือไม่ว่าร้านไก่ย่างเหล่านี้มีจุดเริ่มต้นจากการขายไก่บนรถไฟเมื่อกว่า 80 ปี มาแล้ว ไก่ย่างที่ห้วยทับ ห้วยทับทันมีจุดเริ่มต้นพร้อมกับทางรถไฟที่มาถึง จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อปี พ.ศ. 2470 จากการขายบนรถไฟต่อมาได้พัฒนาเป็นเปิดร้านขายริมทาง
จุดเด่นคือชาวบ้านที่นี่จะใช้ไม้มะดันซึ่งเป็นต้นไม้พื้นถิ่นทำเป็นไม้ปิ้งไก่ จึงเรียกกันว่า “ไก่ย่างไม้มะดัน” ปัจจุบันมีร้านขายไก่ย่างมากกว่า 40 ร้าน จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน และเป็นสินค้าโอท็อปของจังหวัด ไก่ย่างไม้มะดันรสชาติอร่อย น้ำจิ้มรสแซ่บ ไม่แห้งเกินไป เนื้อแน่น ส่วนใหญ่ใช้ไก่ลูกผสม อาจติดรสเค็มเล็กน้อย แต่ถ้าทานคู่กับอาหารอื่นๆ หรือข้าวเหนียวร้อนๆ รับรองอิ่มอร่อยติดใจแน่นอน
